วรรณยุกต์ในภาษาไทย นับเป็นเสียงดนตรีตามตำราภาษาไทยสมัยโบราณ โดยแบ่งออกเป็น ๕ เสียง ได้แก่ สามัญ เอก โท ตรี และจัตวา และมีเครื่องหมายกำกับเสียงวรรณยุกต์ ซึ่งเรียกว่า “วรรณยุกต์” ด้วยเช่นกัน โดยที่เครื่องหมายวรรณยุกต์ อาจไม่ได้บ่งบอกถึงเสียงวรรณยุกต์นั้นเสมอไป เว้นแต่เมื่อกำกับคำเป็น ที่มีพยัญชนะต้นเป็นอักษรกลาง
เสียงวรรณยุกต์ไทยตามหลักภาษาศาสตร์ แบ่งได้ดังนี้
- เสียงสามัญ (ระดับเสียงกึ่งสูง-กลาง)
- เสียงเอก (ระดับเสียงกึ่งต่ำ-ต่ำ)
- เสียงโท (ระดับเสียงสูง-ต่ำ)
- เสียงตรี (ระดับเสียงกึ่งสูง-สูง)
- เสียงจัตวา (ระดับเสียงกึ่งต่ำ-ต่ำ-กึ่งสูง)
รูปวรรณยุกต์
เครื่องหมายวรรณยุกต์ในภาษาไทย มี ๔ รูป ดังนี้
ไม้เอก (-่), ไม้โท (-้), ไม้ตรี (-๊) และ ไม้จัตวา (-๋)
อย่างไรก็ตาม ในจารึกสมัยโบราณ เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง มีเครื่องหมายวรรณยุกต์เพียง ๒ รูป คือ ไม้เอก (-่) และไม้โท (-๋) เช่น น๋อง (น้อง), ห๋า (ห้า)
การผันเสียงวรรณยุกต์
โดยทั่วไปเสียงพยางค์หนึ่งในภาษาไทย สามารถผันได้ ๕ เสียงวรรณยุกต์ แต่ในภาษาเขียน จะมีกฎเกณฑ์การผันที่ตายตัว ดังนี้
หมู่อักษร-คำเป็นคำตาย | เสียงสามัญ | เสียงเอก | เสียงโท | เสียงตรี | เสียงจัตวา |
---|---|---|---|---|---|
อักษรกลาง คำเป็น | กา | ก่า | ก้า | ก๊า | ก๋า |
อักษรกลาง คำตาย สระสั้น | – | กะ | ก้ะ | ก๊ะ | ก๋ะ |
อักษรกลาง คำตาย สระยาว | – | กาบ | ก้าบ | ก๊าบ | ก๋าบ |
อักษรสูง คำเป็น | – | ข่า | ข้า | – | ขา |
อักษรสูง คำตาย สระสั้น | – | ขะ | ข้ะ | – | ข๋ะ |
อักษรสูง คำตาย สระยาว | – | ขาบ | ข้าบ | – | – |
อักษรต่ำ คำเป็น | คา | – | ค่า | ค้า | – |
อักษรต่ำ คำตาย สระสั้น | – | – | ค่ะ | คะ | – |
อักษรต่ำ คำตาย สระยาว | – | – | คาบ | ค้าบ | ค๋าบ |
คำตายของอักษรกลางและอักษรสูง ไม่ว่าสระจะเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวก็ผันวรรณยุกต์ตามรูปแบบเดียวกัน เว้นแต่คำตายของอักษรต่ำ เมื่อเป็นสระเสียงสั้นหรือเสียงยาวจะผันคนละแบบ
อักษรต่ำและอักษรสูงไม่สามารถผันให้ครบ ๕ เสียงได้ จึงมักจะใช้อักษรเสียงเดียวกันจากอีกหมู่หนึ่งมาใช้เป็นอักษรนำ โดยมีอักษรสูงนำ (ยกเว้นอักษร อ ซึ่งเป็นอักษรกลาง สามารถนำ อักษร ย ได้) เช่น นา หน่า น่า น้า หนา, มี หมี่ มี่ มี้ หมี